วันจันทร์ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2551

เพลงต่างวัย 6 เพลง (งานคอมฯ)

เพลงต่างวัย 6 เพลง
1. เพลงของ นางมนฑา งามขำ(ป้า) อายุ 55 ปี
ชื่อเพลง ไมใช่แฟนทำแทนไม่ได้
นักร้อง ตั้กแตน ชลดา
เนื้อเพลง คนที่ไม่ใช่แฟน ทำแทนทุกเรื่องไม่ได้ เหนื่อยก็รู้ เหงาก็เข้าใจ แต่ไม่อาจให้ยืมอ้อมแขน
2. เพลงของ นายเทียน สนใจ(ตา) อายุ 72 ปี
ชื่อเพลง มอเตอร์ไซค์ทำหล่น
นักร้อง ศรเพชร ศรสุพรรณ
เนื้อร้อง แฟนของใคร มอเตอร์ไซค์ทำหล่น หน้ามนสวยสะดุดตา
3. เพลงของ นายสายันต์ สนใจ(ลุง) อายุ 45 ปี
ชื่อเพลง หนุ่มเมืองเพชร
นักร้อง ไชโย ธนาวัฒน์
เนื้อร้อง ไอ้หนุ่มเมืองเพชร รักเธอเม็ดใจ น้องยังแฟนม่าย ถ้าว่ายังม่ายลองแลดูที
4. เพลงของ นางมลฑิชา นิเวศน์วรทาน(อา) อายุ 37 ปี
ชื่อเพลง โทรหาครั้งสุดท้าย
นักร้อง เอิน The Star
เนื้อเพลง บอกคนใหม่ของเธอให้เข้าใจ ว่าคนใจสลาย โทรมาเพื่อยืนยัน จากคนเคยคบ แค่พบไม่ผูกพัน ใช้เวลาไม่นานก็จากไป
5. เพลงของ นางเล็ก ชูพันธ์(ย่า) อายุ 82 ปี
ชื่อเพลง 16 ปีแห่งความหลัง
นักร้อง สุรพล สมบัติเจริญ
เนื้อร้อง 16 แห่งความหลัง ทั้งรัก ทั้งชัง ทั้งหวานและขมขื่น
6. เพลงของ นายจีระศักดิ์ รบแคล้ว(น้อง) อายุ 15 ปี
ชื่อเพลง แฟนเก่า
นักร้อง ลาบานูน
เนื้อร้อง อยากบอกว่ายังรักยังคิดถึงเธอ ทุกๆครั้งที่เจอฉันก็อยากให้เข้าใจ

นิทานความกตัญญู(งานภาษาไทย)

นิทานความกตัญญู

มีหนุ่มเจ้าสำราญผู้หนึ่ง วันๆไม่ยอมทำประโยชน์อะไร ดีแต่เที่ยวเล่นไปวันๆ ทั้งๆที่อายุอานามก็สมควรแก่การสร้างเนื้อสร้างตัว สร้างฐานะ และมีครอบครัวแล้ว แต่เขาก็ไม่เคยคิดจะมีความรับผิดชอบ ไม่คิดอยากจะรับภาระอะไรใดๆทั้งสิ้น ด้วยเห็นว่าเป็นหน้าที่ของพ่อแม่อยู่แล้วที่ต้องหาเงินหาทองไว้ให้ลูก และกิจการที่บ้านนั้น ทั้งพ่อและแม่ต่างช่วยกันทำมาหากินอย่างขยันแข็ง จนเงินทองที่มีอยู่ชาตินี้เขาคงใช้ไม่หมดด้วยซ้ำ วันหนึ่ง ชายหนุ่มผู้นี้และเพื่อนๆอีก 2-3 คน พากันเข้าป่า หมายจะไปล่าสัตว์ แต่เมื่อเดินเข้าป่าไปได้สักพักใหญ่ เขาก็เกิดพลัดหลงกับเพื่อน ชายหนุ่มจึงเดินลัดเลาะไปเรื่อยๆอย่างไม่รู้จุดหมาย เขาเริ่มหลงทาง เขาเริ่มรู้สึกอ่อนเพลีย แต่ก็ต้องหาทางเดินต่อไป เมื่อพระอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้า บรรยากาศรอบข้างมืดลง ไม่เห็นหนทาง เขาจึงทิ้งตัวลงนอน ด้วยความหิวโหยและหมดแรง รุ่งขึ้น..เขายังคงเดินต่อไป เพื่อหาทางออก จนกระทั่งพระอาทิตย์กำลังจะลับเหลี่ยมเขาอีกครั้ง แต่ขณะที่เขากำลังจะทิ้งตัวลงอย่างหมดหวัง ก็เหลือบไปเห็นแสงไฟจากกระท่อมกลางป่าหลังหนึ่ง เขาจึงรวบรวมเรี่ยวแรงที่เหลืออยู่รีบวิ่งไปยังกระท่อมนั้น และได้พบสามี-ภรรยาคู่หนึ่ง ซึ่งเมื่อไต่ถามความเป็นมาของชายหนุ่มแล้ว ทั้งคู่ก็บอกให้ชายหนุ่มไปอาบน้ำอาบท่า แล้วจัดแจงหาข้าวปลาอาหารมาให้กิน คืนนั้นชายหนุ่มจึงหลับไปด้วยความสุข วันรุ่งขึ้น ชายหนุ่มตื่นขึ้นมาด้วยความแจ่มใส และรู้สึกตื้นตันใจในความเมตตากรุณา ของสองสามีภรรยาเป็นอย่างมาก เขาจึงกล่าวขึ้นว่า “ข้าขอขอบคุณท่านทั้งสองที่ได้ช่วยชีวิตข้าในครั้งนี้ แม้เราไม่เคยรู้จักกัน แต่พวกท่านก็ให้การดูแลข้าอย่างดี ข้าไม่รู้จะตอบแทนอย่างไร จึงจะทดแทนน้ำใจของพวกท่าน ได้” ฝ่ายภรรยาจึงยิ้มให้อย่างอ่อนโยน แล้วตอบว่า “หนุ่มน้อย ถ้าเจ้าอยากตอบแทนละก็ กลับไปทดแทนบุญคุณพ่อแม่ของเจ้าเถิด พวกเขาเลี้ยงดูอุ้มชูเจ้ามา ให้ทั้งข้าวปลาอาหารน้ำท่าที่พักพิง จนเติบใหญ่เพียงนี้ บุญคุณนั้นใหญ่หลวงนัก เราสองคนแค่ให้ที่พักพิงเจ้าชั่วข้ามคืนหนึ่ง เทียบกับพ่อแม่เจ้าไม่ได้หรอก” ได้ฟังดังนั้น ชายหนุ่มจึงคิดได้ว่า เขาเป็นผู้ที่หลงทางจริงๆ
คนไทยเราได้รับการปลูกฝังและสั่งสอนกันมาตั้งแต่เด็กๆแล้วว่า “ความกตัญญูกตเวที” นั้น เป็นคุณธรรมสำคัญที่เราควรปฏิบัติต่อพ่อแม่และผู้มีบุญคุณแก่เรา แต่เชื่อว่าคนจำนวนไม่น้อยที่มองข้ามพระคุณของพ่อแม่ ผู้ซึ่งอยู่ใกล้ตัวที่สุด โดยคิดว่าสิ่งที่พ่อแม่ทำนั้นเป็นหน้าที่ที่ต้องทำ แต่ในขณะที่ผู้อื่นหยิบยื่นน้ำใจให้เพียงเล็กน้อย เราก็ตื้นตัน ชื่นชม และประทับใจไม่ลืม อย่างนี้มันยุติธรรมสำหรับผู้ให้กำเนิดเราแล้วหรือ จงอย่าปล่อยให้ช่วงเวลาดีๆ ที่มีโอกาสตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ผ่านเลยไป โปรดตอบแทนความรักอันยิ่งใหญ่นั้น ในทุกๆวันของชีวิตเรา ...ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป

วันจันทร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

เห็นน้ำตาฉันไหม ...

วันเวลา ความรัก กับความทรงจำ คงไม่มีค่าอะไร
หากเธอจะเดินจากฉันไป ด้วยความรู้สึก ..อยากจะไป..
หัวใจของฉันคงไม่สามารถดึงรั้งหัวใจใครไว้
หากความรักที่มีต่อกันลดน้อยลงไปทุกที

หากจะต้องมีใครเหนื่อยเพราะ ...รักมากเกินไป...
คงเป็นเรื่องลำบากใจ การเดินจากไปเพราะคำว่ายังรัก
มันเจ็บปวดเกินไปสำหรับฉัน
ก็แค่หมดรัก พูดยากกว่า ยังรัก มากแค่ไหน
เพราะสุดท้าย มันก็มีความหมายเหมือน ๆ กัน
แม้วันนี้จะไม่เข้าใจ และเธอเองก็เริ่มรู้สึกเหนื่อยใจกับฉัน
ก็ขอให้เธอเดินไปตามทางที่เลือก
แล้วไม่ต้องหันกลับมาถามกันว่า..อยู่ได้ไหม..
ถ้าฉันตอบว่าอยู่ไม่ได้ เธอจะกลับมาหาฉันมั้ย
ในวันที่มั่นใจว่าจะไป ขอจงอย่าได้พูดอะไร ให้รู้สึกเจ็บ
ขอแค่คำเดียวว่า ...ฉันไม่รักเธอแล้ว... ก็เพียงพอสำหรับฉัน
ฉันทำใจได้ ไม่ได้เก่ง แต่ถ้าไม่รักกัน ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะแกล้งทำเป็นรักต่อไป
ยังไหว แม้ใจจะอ่อนแรง
ยังเข้มแข็ง แม้จะกายจะอ่อนล้า
ยังอยู่ได้ แม้ไม่รู้หนทางข้างหน้า
เพียงขอเวลา ตัดใจบ้าง เท่านั้นเอง
เค้าว่ารักคนที่รักเรา ดีกว่าไปรักคนที่เรารักเค้าฝ่ายเดียว
ฉันเพิ่งรู้ว่ามันไม่จริง ก็วันนี้

ที่มา : http://my.dek-d.com/Writer/story/viewlongc.php?id=345246&chapter=532

วันอังคารที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

อยู่ตรงนี้ ณ ที่ที่มีรัก

ฉันเดินผ่านมาบนหนทางนี้
ได้พบเธอคนดีที่ฝันหา
รู้ไหมเธอคือคนที่ฉันรอคอยตลอดมา
วันนี้ฉันเดินมาได้พบแล้วคนของใจ

ฉันรู้เธอเคยผ่านหนทางที่เหนื่อยอ่อน
หัวใจเธอยังอาวรณ์กับรักที่อ่อนไหว
แม้วันผ่านหากรอยร้าวยังคงฝังในหัวใจ
ฉันขอแค่เป็นคนคอยห่วงใยช่วยซับรอยน้ำตา

เพียงเธอคนดียังรู้ว่ายังคงมีฉัน
ที่จะคอยอยู่เคียงข้างกันยามเธอเรียกหา
เพียงกระซิบเบา ๆ ความรักจะลอยมา
แล้วจะก้าวเดินไปข้างหน้าพร้อม ๆ กับเธอ

ฉันเป็นคน อยู่ตรงนี้ ณ ที่ที่มีรัก
เพียงคนดี เอ่ยทัก จะไปหา
ช่วยลบเศร้า รอยเหงา ในแววตา
ลมจะพา ฝากรัก ไปทักทาย

ที่มา : http://my.dek-d.com/Writer/story/viewlongc.php?id=345246&chapter=147

นาฬิกากับเวลา ...

แปลกมั๊ย...ใครๆ ก็คิดว่าเวลากับนาฬิกาเป็นสิ่งที่คู่กันเสมอ จริงๆแล้ว มันไม่ได้เป็นอย่างนั้นซักหน่อยเวลา... เดินไปข้างหน้า นาฬิกา... เดินอยู่ที่เก่าเวลา... เราไม่อาจย้อนกลับนาฬิกา... เราหมุนย้อนมันได้ เวลา... เมื่อสูญเสียไปแล้วไม่อาจเรียกร้องคืน นาฬิกา... เสียก็ซ่อม หรือซื้อใหม่ไปเลยเวลา... ได้มาฟรีๆ ไม่ต้องแลกกะอะไร นาฬิกา... ยิ่งสวยยิ่งแพง ใช้เงินซื้อมันมาทั้งนั้น แล้วอย่างนี้ มันจะคู่กันได้ยังไงในเมื่อมันแตกต่างกันเหลือเกิน แต่ถามหน่อย... ถ้าไม่มีนาฬิกา จะรู้เวลามั๊ย หรือถ้ามีแต่นาฬิกา แต่ไม่รู้จักเวลา จะมีประโยชน์อะไร ถึง 2 สิ่งจะแตกต่างกัน แต่ถ้ามันจะคู่กันแล้ว ย่อมมีจุดร่วมกันเสมอ เพียงแต่จะมองเห็นมันรึป่าว? ฉัน... อาจเหมือนกับเวลา ที่ชอบเดินไปข้างหน้า หาสิ่งใหม่ๆ ที่ท้าทาย โดยทิ้งหลายสิ่งไว้ข้างหลัง เค้า... อาจเหมือนกับนาฬิกา ที่ยังเป็นแบบเดิมๆ ใช้ชีวิตและทำหน้าที่ไปเรื่อยๆ ในมุมเก่าๆ ฉันอาจไม่พบกับเค้าเลย ถ้าฉันยังดึงดันจะมองแต่ข้างหน้า ฉันอาจไม่พบกับเค้าเลย ถ้าฉันไม่มองไปข้างหลัง เค้ายังไม่เห็นฉัน เพราะเขายังอยู่แบบเดิมๆ เค้ายังไม่เห็นฉัน เพราะเขายังก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ของเขาไป แต่ฉันยังเฝ้ามอง เฝ้ารอ …ความแตกต่าง อาจสร้างกำแพงบังเค้าไว้ แต่ฉันยังเชื่อมั่น ว่าซักวัน สิ่งนั้นนั่นแหละที่จะเชื่อมโยงใจเราเข้าหากัน ความแตกต่าง จะเติมเต็มส่วนที่เราขาดหาย และสุดท้าย ก็จะเหลือเพียงแค่คำว่า…กันและกัน... เหมือนกับเวลาและนาฬิกา ที่ยังคู่กันเสมอมาและตลอดไป

ที่มา : http://my.dek-d.com/Writer/story/viewlongc.php?id=345246&chapter=75

วันเสาร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ถ้ารู้จักรัก ...

สิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตเรา...ก้อคือชีวิตเรา
สิ่งที่มีค่าที่สุดในหัวใจเรา...ก้อคือหัวใจเรา
อย่าเอาชีวิตทั้งชีวิตไปยกให้ใคร
อย่าเอาใจทั้งใจไปยกให้ใครคนเดียว
อย่ายกสิ่งที่มีค่าที่สุดของเราไปให้ใครดูแล
เพราะไม่มีใคร...ที่จะดูแลมันได้ดีไปกว่าตัวเราเอง
อย่าปิดกั้นความรู้สึกของหัวใจอย่าบอกว่าเราเกิดมาเพื่อจะรักคน ๆ เดียว
คนใจแคบเท่านั้นที่เกิดมาเพื่อที่จะรักคนได้คนเดียว
เราสามารถที่จะรักใครได้มากมาย
ขอเพียงให้รู้จักหน้าที่ของความรัก
หน้าที่ที่จะปฏิบัติต่อคนที่เรารักรักต่างแบบ...
ปฏิบัติในหน้าที่ต่างกัน
แล้วเมื่อวันใดวันหนึ่งคนบางคนไม่แยแสกับความรักที่เรามีให้
เราก็ยังคงเหลือใครต่อใครอีกมากมายและไม่เห็นจะต้องเจ็บเจียนตาย
ถ้าเรามั่นใจ...ว่าเราทำหน้าที่ให้กับรักนั้นสมบูรณ์และเต็มที่แล้ว
ถ้าอากาศร้อนอบอ้าว...ลองออกมายืนคุยกับแสงแดด
อากาศหนาวแทบขาดใจ...ลองออกมาหาไออุ่นลมหนาว
เราจะรู้ว่าร้อนหรือหนาวก็ต่อเมื่อเราได้ไปสัมผัสกับมัน
ก็เหมือนกับความรัก ....
ถ้าอยากรู้ว่ารสชาดเป็นอย่างไรก็ต้องไปสัมผัสกับมัน
แต่อย่าทรมานตัวเองโดยการออกไปยืนตากแดดนาน ๆ หรือยืนต้านทานลมหนาว
ถ้ารู้ว่าร้อนนักก็หลบหาที่ร่ม ถ้ารู้ว่าหนาวก็ก่อเตาผิง ^_^
ความรักจะไม่ทำร้ายเรา ถ้าเราไม่ทำร้ายตัวเอง^_^
...ถ้าคุณรู้จักรัก..แสงแดดจะทำให้คุณอบอุ่น ลมหนาวก็จะทำให้คุณหลับสบาย...

ที่มา : http://my.dek-d.com/Writer/story/viewlongc.php?id=345246&chapter=354

สิ่งที่เหลือจากความรัก ...

เมื่อมีความรักย่อมมีความสุข
หลายๆครั้งที่เรามักจะพะวงถึงเรื่องอนาคตของความรัก
ว่ารักนี้จะยืนยาวสักแค่ไหน
ทำให้บางครั้งเรากลัวที่จะรัก
กลัวการเลิกรา กลัวความผิดหวัง
กลัวอะไรต่อมิอะไรที่ยังไม่ได้เกิดขึ้น
ทุกอย่างที่กลัวเป็นเรื่องของอนาคตทั้งนั้น
อนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน...แล้วเราจะเอาอะไรกับมัน
ผมเคยมีความรักที่ดูเหมือนว่าจะเหมาะสมด้วยเหตุผลทุกประการ
น่าจะเป็นความรักที่ยืนยาว มั่นคง
แต่วันหนึ่งรักนั้นก็จบลง
ความแน่นอนก็มีความไม่แน่นอนอยู่ในตัวมัน
รักไปเถิดถ้าใจมีรัก ทุกอย่างเริ่มต้นก็ต้องมีจบ
แม้รักต้องจบลงร่องรอยของความรักก็ยังคงเป็นสิ่งที่สวยงาม...

การจากไปของเธอเป็นการเดินทางของเวลา
เพียงเพื่อไปสู่วันข้างหน้าวันที่ฉันยังคงอยู่
อยู่กับความรักของเธอที่จะเป็นแรงผลักดันเพื่อให้ฉันก้าวเดินต่อไป
ขอบคุณที่ทำให้ฉันได้รู้จักความรัก
ได้สัมผัสกับสิ่งที่สวยงาม
ได้มีความทรงจำที่ดีได้ยิ้มเมื่อคิดถึงรักครั้งนั้น
ได้มีโอกาสที่จะเป็นที่รัก

ข อ บ คุ ณสำหรับร่องรอย. . . ที่สวยงาม

ที่มา : http://my.dek-d.com/Writer/story/viewlongc.php?id=345246&chapter=135