1. เพราะโรงเรียน ทำให้เย็นวันศุกร์มี ความหมาย
ไม่มีวันไหนที่ จะทำให้เรา รอคอยได้มากเท่า เย็นวันศุกร์ อีกแล้ว เป็นวันที่ พิเศษที่สุด ของ วันที่เราต้อง ไปโรงเรียนเลย ก็ได้ ทุกคนจะ พร้อมใจ เทคะแนน ให้เป็น ขวัญใจดีเดย์ ในรอบสัปดาห์ อยากให้เย็นวันศุกร์ มาถึงเร็ว ๆ ใครไม่เคยรอบ้างล่ะ อยากรู้นัก จะได้หยุด เสาร์ - อาทิตย์ กันอีกรอบนึงไง แหม ! พูดแล้ว ก็คิดถึงจังเลยเจ้าวันศุกร์เนี่ย
2. เพราะที่โรงเรียน มีวันปิดเทอม
โอ้... วัน ปิดเทอม จะมีที่ไหนมี ถ้าไม่ใช่ที่ โรงเรียน มีเรียน ก็ต้องมีหยุดพัก กันบ้าง ไม่งั้นสมอง แตกกระจุย กันพอดี เป็นที่เดียว ในโลก แน่ ๆ เลยที่วิเศษ ขนาดนี้ อยากให้ เปิดปุ๊ป ปิดปั๊ป บ่อย ๆ จะได้รักมาก ขึ้นอีก 10 เท่า พอโตขึ้น เป็นผู้ใหญ่ เราก็คงไม่ได้ มีวัน ปิดเทอม กัน อีกแล้ว แล้วจะไม่ให้ เรารัก โรงเรียน ได้ยังไงกันล่ะ
3. เพราะโค้กที่โรงเรียนราคาถูกกว่าที่ 7-eleven
จะกินโค้กแก้วละ 5 บาทได้กี่ที่กันหล่ะในโลกนี้ เผลอ ๆ กินหมดแก้วยังไปแอบเติมได้อีก แหม ! ใคร ๆ เขาก็ทำกัน อย่าบอกเชียวนะว่า ไม่เคย โกรธกันตายเลย ก็มันโกหกกันแหงม ๆ อยู่แล้ว ถึงแก้วจะใหญ่กว่า ที่อื่น แต่มันก็ไม่พอกับความต้องการของเรานี่นา ... เราต้องการโค้ก...ส่งโค้กมาซะดี ๆ
4. เพราะหน้าโรงเรียนมีทางม้าลาย
เจ้าทางม้าลาย แบนแต๊ดแต๋ ที่หน้าโรงเรียน เราชื่อ บู้บี้ เจอกันทุกวัน มันจะพาเรา ไปอีกฝั่ง ของถนน โดยการขี่ ของคุณลุงจราจร พุงกลม มันกระซิบ พวกเราว่า คุณลุงตัวหนัก ไปหน่อย แต่ก็เป็น คนที่ใจดีที่สุด ในโลกเลย เฮ้อ ... ไม่รู้ว่ตอนนี้ สบายดีรึเปล่า หวังว่า คุณลุงจราจร พุงกลม จะดูแลมัน เป็นอย่างดี เจ้าทางม้าลาย หน้าโรงเรียน ของเราเนี่ย สบายสุด ๆ เลย ไม่ต้องเหนื่อย เดินขึ้นสะพานลอย กันให้เมื่อย อยากให้ทุกที่ มีเจ้าม้าลาย อย่างที่โรงเรียนจัง
5. เพราะโรงเรียนทำให้วิ่งเร็ว
เวลาเจอคุณครู ฝ่ายปกครองเนี่ย ต้องวิ่งกันเร็วจี๋ ทุกคนเลย ไม่งั้นไม่รอด แต่คุณครู ก็วิ่งเร็วขึ้น ทุกวันนะ แข่งกันใหญ่เลย วิ่งกันทั้งโรงเรียน สนุกดี วิ่งหนีคุณครู กันจนเป็น แชมป์ไป หลายคนแล้ว อย่าบอกนะ ว่าไม่เคย มาแข่งกันดูไหมหล่ะ เดี๋ยวจะหาว่าโม้ แต่เอ๊ะ... สงสัยจังเลยว่า ตอนนี้คุณครู วิ่งเร็วกว่าเรา แล้วหรือยัง...ไม่ได้วิ่งเสียนาน
6. เพราะโรงเรียนมีหลังห้อง
ความลับหลังห้อง มีอาจารย์เท่านั้นแหละ ที่ แกล้ง ไม่รู้ เล่นหลับทับกัน เป็นกองขนาดนั้น ไม่รู้ยังไง ไหว แต่ยังไงก็ต้องนอน ทุกวันนะ ไม่งั้นหลังห้อง จะน้อยใจ คิดอย่างนี้ เหมือนกัน ใช่ไหมหล่ะ
7. เพราะโรงเรียนมีห้องพยาบาล
ห้องพยาบาล ไม่เหมือนโรงพยาบาลนะ เราไม่ชอบไป โรงพยาบาล แต่ชอบไป ห้องพยาบาล ก็ไม่ต้อง ฉีดยานี่นา และอีกอย่าง ไม่ว่าจะปวดหัว ตัวร้อน ยังไงการรักษา มีอยู่อย่างเดียว คือ ต้องนอนพัก กันไว้ก่อน แล้วจะค่อยๆ ดีขึ้นเอง พอใกล้เวลากลับบ้าน เคยเป็นกัน บ้างไหมล่ะ เจ้าโรคนี้น่ะ เพื่อน ๆ เราเป็นกันทุกคน รักษาไม่เคยหาย เป็นโรคติดต่ออีกต่างหาก เฮ้อ... โรคร้ายประจำ ห้องพยาบาล
8. เพราะโรงเรียน ทำให้เราโต ขึ้นอย่าง คนที่มีคุณภาพ
เราจะเบื่อ ได้ทุกข้อกับกฎ ระเบียบ ต่าง ๆ ของ โรงเรียน เบื่อได้ทุก วิชาตลอด การเรียนมาจน จบแหล่มิจบแหล่ แต่แล้ว ในวันหนึ่งที่เราจากมา เราได้เรียนรู้วว่า สิ่งที่น่าเบื่อ เหล่านั้น ทำให้เราคิดถึง อยู่เสมอว่า เรามีวันนี้อยู่ได้ อย่างไร
เครดิต : http://www.yenta4.com/webboard/viewtopic.php?cate_id=52&post_id=1267391
วันอังคารที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2551
วันจันทร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2551
Cross Word
วันนี้เอา Cross Word มาให้เพื่อนๆลองเล่นกันน่ะค่ะ
http://www.tempf.com/getfile.php?filekey=1221481780.68817_34___________.htm&mime=text/html
http://www.tempf.com/getfile.php?filekey=1221481780.68817_34___________.htm&mime=text/html
Link Blog ของเพื่อนๆ
Link Blog ของเพื่อนน๊ะค๊ะ
คนแรกเป็นเพื่อนต่างห้องที่เลขที่เดียวกันน่ะค่ะ นั่นคือ นางสาวอุมารินทร์ ปิ่นแก้ว เลขที่ 34 เพื่อนคนนี้อยู่ ม.4/2ค่ะ
http://mai34.blog.mthai.com/
สำหรับเพื่อนอีกคนที่อยู่ม.4/1นั้น ไม่มีเลขที่ 34 ค่ะ เนื่องจากห้องนั้นมีแค่ 31 คนค่ะ
ต่อจากนี้เป็นเลขที่ต่อจากเราอีก 10 คนน่ะค่ะ เข้าไปเยี่ยมเพื่อนๆเราด้วยน่ะค่ะ
35 http://nileiiwarissara.blogspot.com/ นางสาว วริศรา ตระกาลรังสี
36 http://pikapoopekeuhu.blogspot.com/ นางสาว วิรดา สมคำ
37 http://kira-misa.blogspot.com/ นางสาวศิวาพร ทองขาว
38 http://blog.hunsa.com/kasinanaka นางสาวกสิณา กาลสี
39 http://blog.hunsa.com/jazzieez นางสาวนภัส บุญญานุเคราะห์สุข
40 http://blog.hunsa.com/violetfruityii นางสาวปาณิศา รอดไป
41 http://blog.hunsa.com/maiizy นางสาววิลาสินี อนุพงศ์พัฒน์
42 http://blog.hunsa.com/onanong42 นางสาวอรอนงค์ ชูใจ
43 http://blog.hunsa.com/pooh.baba นางสาวอุไรรัตน์ ชินโสด
01 http://blog.hunsa.com/bbbananut23 นายคณาวุฒิ กล่ำทอง
คนแรกเป็นเพื่อนต่างห้องที่เลขที่เดียวกันน่ะค่ะ นั่นคือ นางสาวอุมารินทร์ ปิ่นแก้ว เลขที่ 34 เพื่อนคนนี้อยู่ ม.4/2ค่ะ
http://mai34.blog.mthai.com/
สำหรับเพื่อนอีกคนที่อยู่ม.4/1นั้น ไม่มีเลขที่ 34 ค่ะ เนื่องจากห้องนั้นมีแค่ 31 คนค่ะ
ต่อจากนี้เป็นเลขที่ต่อจากเราอีก 10 คนน่ะค่ะ เข้าไปเยี่ยมเพื่อนๆเราด้วยน่ะค่ะ
35 http://nileiiwarissara.blogspot.com/ นางสาว วริศรา ตระกาลรังสี
36 http://pikapoopekeuhu.blogspot.com/ นางสาว วิรดา สมคำ
37 http://kira-misa.blogspot.com/ นางสาวศิวาพร ทองขาว
38 http://blog.hunsa.com/kasinanaka นางสาวกสิณา กาลสี
39 http://blog.hunsa.com/jazzieez นางสาวนภัส บุญญานุเคราะห์สุข
40 http://blog.hunsa.com/violetfruityii นางสาวปาณิศา รอดไป
41 http://blog.hunsa.com/maiizy นางสาววิลาสินี อนุพงศ์พัฒน์
42 http://blog.hunsa.com/onanong42 นางสาวอรอนงค์ ชูใจ
43 http://blog.hunsa.com/pooh.baba นางสาวอุไรรัตน์ ชินโสด
01 http://blog.hunsa.com/bbbananut23 นายคณาวุฒิ กล่ำทอง
วันศุกร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2551
วันพุธที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2551
ความรู้สึกกีฬาสี
ความรู้สึกเมื่อตอนกีฬาสีหรอค่ะ
สนุกสุดๆไปเล้ยยยยยย แบบว่าเชียร์กีฬาสนุกมากมาย
ที่ร.ร.ของเรามี 6 สีด้วยกัน
มีสีเขียว ฟ้า ม่วง ส้ม ชมพู เหลือง
ปีนี้เราอยู่สีเหลืองอ่ะ ซ้ำด้วย
ไม่อยากอยู่ซ้ำเลยอ่ะ เลยอยู่ไม่ครบ 6 สี 6 ปีเลยอ่ะ
เมื่อตอนม.ต้นอยู่สีเขียว ม่วง เหลือง แล้วมาม.4 ก้อสีเหลืองอีกแระอ่า งุงิ
แต่ก้อน่ะไม่เป็นไร เด๋วเอาใหม่ เรียงแบบนี้
เขียว ม่วง เหลือง เหลือง ม่วง เขียว
เหอๆ แนวดี ไม่มีคัยเหมือน อิอิ
สนุกสุดๆไปเล้ยยยยยย แบบว่าเชียร์กีฬาสนุกมากมาย
ที่ร.ร.ของเรามี 6 สีด้วยกัน
มีสีเขียว ฟ้า ม่วง ส้ม ชมพู เหลือง
ปีนี้เราอยู่สีเหลืองอ่ะ ซ้ำด้วย
ไม่อยากอยู่ซ้ำเลยอ่ะ เลยอยู่ไม่ครบ 6 สี 6 ปีเลยอ่ะ
เมื่อตอนม.ต้นอยู่สีเขียว ม่วง เหลือง แล้วมาม.4 ก้อสีเหลืองอีกแระอ่า งุงิ
แต่ก้อน่ะไม่เป็นไร เด๋วเอาใหม่ เรียงแบบนี้
เขียว ม่วง เหลือง เหลือง ม่วง เขียว
เหอๆ แนวดี ไม่มีคัยเหมือน อิอิ
วันศุกร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2551
อิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนิง
สรุปเรื่อง
เมื่ออิเหนาได้จินตะหรา ธิดาท้าวหมันหยาเป็นชายา และไม่ยอมกลับไปอภิเษกกับบุษบา ท้าวดาหากริ้วมากจึงประกาศว่า กษัตริย์ผู้ใดมาขอบุษบาก็จะยกให้ ระตูจรกา อนุชาของระตูเจ้าเมืองล่าสำ ได้เห็นรูปบุษบาได้มาสู่ขอบุษบาเป็นคู่ตุนาหงัน ในเวลาใกล้ๆกันนั้น วิหยาสะกำเจ้าชายหนุ่มรูปงาม โอรสของท้าวกะหมังกุหนิงได้ส่งทูตไปขอบุษบา แต่ถูกท้าวดาหาปฏิเสธ จึงเรียกน้องชายที่เป็นเจ้าเมืองประหมัน และปะหยังมาช่วยรบ แม้น้องชายทั้งสองของท้าวกะหมังกุหนิงจะทรงทัดทานมิให้ทำศึกแต่ก็มิอาจทำให้ทรงเปลี่ยนพระทัยได้เลย
ฝ่ายท้าวดาหา ได้ส่งข่าวศึกไปยังเมืองกุเรปัน ซึ่งทรงใช้ให้กะหรัดตะปาตี ยกทัพมาพร้อมกับทรงมีราชสาส์นไปถึงอิเหนากับท้าวหมันหยา อิเหนาจึงยกทัพมาพร้อมกับระเด่นดาหยนคุมกองทัพหมันหยามาด้วย ด้านเมืองกาหลังได้ส่งตำมะหงงและดะหมังยกทัพมาช่วย เมืองสิงหัดส่าหรีได้ให้สุหรานากงยกทัพมาช่วย
ในการรบวิหยาสะกำเข้ารบกับสังคามาระตาและถูกสังคามาระตาแทงด้วยทวนจนถึงแก่ชีวิต ท้าวกะหมังกุหนิงเข้ารบกับอิเหนาและถูกอิเหนาใช้กริชแทงถึงแก่ชีวิตเช่นกัน ฝ่ายระตูทั้งสองคือ ท้าวประหมันและท้าวปะหยังเห็นเหตุการณ์ดังนั้นจึงขอยอมแพ้แก่อิเหนาในที่สุด
เมื่ออิเหนาได้จินตะหรา ธิดาท้าวหมันหยาเป็นชายา และไม่ยอมกลับไปอภิเษกกับบุษบา ท้าวดาหากริ้วมากจึงประกาศว่า กษัตริย์ผู้ใดมาขอบุษบาก็จะยกให้ ระตูจรกา อนุชาของระตูเจ้าเมืองล่าสำ ได้เห็นรูปบุษบาได้มาสู่ขอบุษบาเป็นคู่ตุนาหงัน ในเวลาใกล้ๆกันนั้น วิหยาสะกำเจ้าชายหนุ่มรูปงาม โอรสของท้าวกะหมังกุหนิงได้ส่งทูตไปขอบุษบา แต่ถูกท้าวดาหาปฏิเสธ จึงเรียกน้องชายที่เป็นเจ้าเมืองประหมัน และปะหยังมาช่วยรบ แม้น้องชายทั้งสองของท้าวกะหมังกุหนิงจะทรงทัดทานมิให้ทำศึกแต่ก็มิอาจทำให้ทรงเปลี่ยนพระทัยได้เลย
ฝ่ายท้าวดาหา ได้ส่งข่าวศึกไปยังเมืองกุเรปัน ซึ่งทรงใช้ให้กะหรัดตะปาตี ยกทัพมาพร้อมกับทรงมีราชสาส์นไปถึงอิเหนากับท้าวหมันหยา อิเหนาจึงยกทัพมาพร้อมกับระเด่นดาหยนคุมกองทัพหมันหยามาด้วย ด้านเมืองกาหลังได้ส่งตำมะหงงและดะหมังยกทัพมาช่วย เมืองสิงหัดส่าหรีได้ให้สุหรานากงยกทัพมาช่วย
ในการรบวิหยาสะกำเข้ารบกับสังคามาระตาและถูกสังคามาระตาแทงด้วยทวนจนถึงแก่ชีวิต ท้าวกะหมังกุหนิงเข้ารบกับอิเหนาและถูกอิเหนาใช้กริชแทงถึงแก่ชีวิตเช่นกัน ฝ่ายระตูทั้งสองคือ ท้าวประหมันและท้าวปะหยังเห็นเหตุการณ์ดังนั้นจึงขอยอมแพ้แก่อิเหนาในที่สุด
นิทานเวตาล
เรื่องย่อ นิทานเวตาล
ณ ฝั่งแม่น้ำโคทาวรี มีพระมหานครแห่งหนึ่งตั้งอยู่นามว่า
ประดิษฐาน ที่เมืองนี้ในสมัยบรรพกาลมีพระราชาธิบดีองค์หนึ่ง
ทรงนามว่า ตริวิกรมเสน ได้ครองราไชศวรรย์มาด้วยความผาสุก
พระองค์เป็นราชโอรสของพระเจ้าวิกรมเสนผู้ทรงเดชานุภาพเทียมท้าววัชรินทร์
ต่อมาได้มีนักบวชชื่อ ศานติศีล ได้นำผลไม้มาถวายทุกวันมิได้ขาด
ซึ่งพระราชาแปลกใจ และได้ไปพบในคืนหนึ่งตามนัด ได้ถามถึงเหตุผล
และเพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณ โยคีศานติศีลจอมเจ้าเล่ห์ได้ขอให้พระราชาตริวิกรมเสน
นำเวตาลมาให้ตนเพื่อจะประกอบมหายัญพิธี
พระราชาผู้มีสัจจะเป็นมั่น ได้ไปนำเวตาลมาให้โยคีเจ้าเล่ห์
แต่เวตาลก็พยายามหน่วงเหนี่ยวด้วยการเล่านิทานทั้งสิ้น ๒๔ เรื่องด้วยกัน
ซึ่งแต่ละเรื่องจะมีคำถามให้พระราชาตอบ โดยมีข้อแม้ว่า หากพระราชาทราบคำตอบแล้ว
ไม่ตอบ ศีรษะของพระราชาจะต้องหลุดจากบ่า และหากพระราชาเอ่ยปากพูด
เวตาลก็จะกลับไปสู่ที่เดิม
และก็เป็นดังนั้นทุกครั้ง ที่พระราชาตอบคำถามของเวตาล
เวตาลก็จะหายกลับไปสู่ต้นไม้ที่สิงที่เดิม พระราชาก็จะเสด็จกลับไปเอาตัวเวตาลทุกครั้งไป
จนเรื่องสุดท้ายพระราชาไม่ทราบคำตอบ ก็ทรงเงียบไม่พูด เวตาลพอใจในตัวพระราชามาก
เพราะเป็นพระราชาผู้ไม่ย่อท้อ ผู้มีความกล้าหาญ ทำให้เวตาลบอกความจริง
ในความคิดของโยคีเจ้าเล่ห์ ว่าโยคีนั้นแท้จริงแล้ว ต้องการตำแหน่งราชาแห่งวิทยาธร
โดยจะเอาพระราชาเป็นเครื่องสังเวยในการทำพิธี และอธิบายถึงวิธีกำจัดโยคีเจ้าเล่ห์
เมื่อพระราชาเสด็จมาถึงโยคีตามที่นัดหมายไว้ ก็ปรากฎว่าโยคี
ได้เตรียมการทำอย่างที่เวตาลได้บอกกับพระราชาไว้ พระราชาจึงแก้โดยทำตาม
ที่เวตาลได้อธิบายให้พระราชาฟัง พระราชาจึงได้ตำแหน่งราชาแห่งวิทยาธร
และเวตาลได้บอกกับพระราชาตริวิกรมเสนว่า "ตำแหน่งนี้ได้มาเพราะ
ความดีของพระองค์ ตำแหน่งนี้จะคอยพระองค์อยู่หลังจากที่ทรงเสวยสุข
ในโลกมนุษย์จนสิ้นอายุขัยแล้ว ข้าขอโทษในกาลที่แล้วมาในการที่ยั่วยวน
ประสาทพระองค์ แต่ก็ไม่ทรงถือโกรธต่อข้า บัดนี้ข้าจะถวายพรแก่พระองค์
ขอทรงเลือกอะไรก็ได้ตามใจปรารถนาเถิด" พระราชาก็ตรัสว่า
"เพราะเหตุที่เจ้ายินดีต่อข้า และข้าก็ยินดีในความมีน้ำใจของเจ้าเช่นเดียวกัน
พรอันใดที่ข้าจะปรารถนาก็เป็นอันสมบูรณ์แล้ว ข้าเพียงแต่อยากจะ
ขออะไรสักอย่างเป็นที่ระลึกระหว่างข้ากับเจ้า นั่นก็คือนิทานที่เจ้ายก
ปัญหามาถามข้าถึงยี่สิบสี่เรื่อง และคำตอบของข้าก็ให้ไปแล้วเช่นเดียวกัน
แลครั้งที่ยี่สิบห้าคือวันนี้ถือเป็นบทสรุป แสดงอวสานของเรื่อง
ขอให้นิทานชุดนี้จงมีเกียรติแพร่กำจายไปในโลกกว้าง”
เวตาลก็สนองตอบว่า “ขอจงสำเร็จ โอ ราชะ บัดนี้จงฟังเถิด
ข้าจะกล่าวถึงคุณสมบัติที่ดีเด่นของนิทานชุดนี้ สร้อยนิทานอันร้อยรัดเข้า
ด้วยกันดังสร้อยมณีสายนี้ ประกอบด้วยยี่สิบสี่เรื่องเบื้องต้น แลมาถึงบทที่ยี่สิบห้า
อันเป็นบทสรุปส่งท้าย นับเป็นปริโยสาน นิทานชุดนี้จงเป็นที่รู้จักกันในนามของ
เวตาลปัญจวิงศติ (นิทานยี่สิบห้าเรื่องของเวตาล) จงมีเกียรติยศบันลือไปในโลก
และนำความเจริญมาสู่ผู้อ่านทุกคน ใครก็ตามที่อ่านหนังสือแม้แต่โศลกเดียว
หรือเป็นผู้ฟังเขาอ่านก็เช่นเดียวกัน จักรอดจากคำสาปทั้งมวล บรรดาอมนุษย์ทั้งหลาย
มียักษ์ เวตาล กุษมาณฑ์ แม่มด หมอผีและรากษส ตลอดจนสัตว์โลกประเภทเดียวกันนี้
จงสิ้นฤทธิ์เดชเมื่อได้ยินใครอ่านนิทาน อันศักดิ์สิทธิ์นี้”
พระศิวะได้ฟังเรื่องของต่าง ๆ ของเวตาลจบก็กล่าวชื่นชมในองค์
พระราชาตริวิเสนมาก ซึ่งพระศิวะได้สร้างจากอนุภาคโดยให้มาปราบอสูรคนร้ายต่าง ๆ
เมื่อพระราชาตริวิกรมเสนได้เป็นจอมราชันแห่งวิทยาธรทั้งโลกและสวรรค์แล้ว
ก็เกิดความเบื่อหน่าย หันไปบำเพ็ญทางธรรมจนบรรลุความหลุดพ้น
ณ ฝั่งแม่น้ำโคทาวรี มีพระมหานครแห่งหนึ่งตั้งอยู่นามว่า
ประดิษฐาน ที่เมืองนี้ในสมัยบรรพกาลมีพระราชาธิบดีองค์หนึ่ง
ทรงนามว่า ตริวิกรมเสน ได้ครองราไชศวรรย์มาด้วยความผาสุก
พระองค์เป็นราชโอรสของพระเจ้าวิกรมเสนผู้ทรงเดชานุภาพเทียมท้าววัชรินทร์
ต่อมาได้มีนักบวชชื่อ ศานติศีล ได้นำผลไม้มาถวายทุกวันมิได้ขาด
ซึ่งพระราชาแปลกใจ และได้ไปพบในคืนหนึ่งตามนัด ได้ถามถึงเหตุผล
และเพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณ โยคีศานติศีลจอมเจ้าเล่ห์ได้ขอให้พระราชาตริวิกรมเสน
นำเวตาลมาให้ตนเพื่อจะประกอบมหายัญพิธี
พระราชาผู้มีสัจจะเป็นมั่น ได้ไปนำเวตาลมาให้โยคีเจ้าเล่ห์
แต่เวตาลก็พยายามหน่วงเหนี่ยวด้วยการเล่านิทานทั้งสิ้น ๒๔ เรื่องด้วยกัน
ซึ่งแต่ละเรื่องจะมีคำถามให้พระราชาตอบ โดยมีข้อแม้ว่า หากพระราชาทราบคำตอบแล้ว
ไม่ตอบ ศีรษะของพระราชาจะต้องหลุดจากบ่า และหากพระราชาเอ่ยปากพูด
เวตาลก็จะกลับไปสู่ที่เดิม
และก็เป็นดังนั้นทุกครั้ง ที่พระราชาตอบคำถามของเวตาล
เวตาลก็จะหายกลับไปสู่ต้นไม้ที่สิงที่เดิม พระราชาก็จะเสด็จกลับไปเอาตัวเวตาลทุกครั้งไป
จนเรื่องสุดท้ายพระราชาไม่ทราบคำตอบ ก็ทรงเงียบไม่พูด เวตาลพอใจในตัวพระราชามาก
เพราะเป็นพระราชาผู้ไม่ย่อท้อ ผู้มีความกล้าหาญ ทำให้เวตาลบอกความจริง
ในความคิดของโยคีเจ้าเล่ห์ ว่าโยคีนั้นแท้จริงแล้ว ต้องการตำแหน่งราชาแห่งวิทยาธร
โดยจะเอาพระราชาเป็นเครื่องสังเวยในการทำพิธี และอธิบายถึงวิธีกำจัดโยคีเจ้าเล่ห์
เมื่อพระราชาเสด็จมาถึงโยคีตามที่นัดหมายไว้ ก็ปรากฎว่าโยคี
ได้เตรียมการทำอย่างที่เวตาลได้บอกกับพระราชาไว้ พระราชาจึงแก้โดยทำตาม
ที่เวตาลได้อธิบายให้พระราชาฟัง พระราชาจึงได้ตำแหน่งราชาแห่งวิทยาธร
และเวตาลได้บอกกับพระราชาตริวิกรมเสนว่า "ตำแหน่งนี้ได้มาเพราะ
ความดีของพระองค์ ตำแหน่งนี้จะคอยพระองค์อยู่หลังจากที่ทรงเสวยสุข
ในโลกมนุษย์จนสิ้นอายุขัยแล้ว ข้าขอโทษในกาลที่แล้วมาในการที่ยั่วยวน
ประสาทพระองค์ แต่ก็ไม่ทรงถือโกรธต่อข้า บัดนี้ข้าจะถวายพรแก่พระองค์
ขอทรงเลือกอะไรก็ได้ตามใจปรารถนาเถิด" พระราชาก็ตรัสว่า
"เพราะเหตุที่เจ้ายินดีต่อข้า และข้าก็ยินดีในความมีน้ำใจของเจ้าเช่นเดียวกัน
พรอันใดที่ข้าจะปรารถนาก็เป็นอันสมบูรณ์แล้ว ข้าเพียงแต่อยากจะ
ขออะไรสักอย่างเป็นที่ระลึกระหว่างข้ากับเจ้า นั่นก็คือนิทานที่เจ้ายก
ปัญหามาถามข้าถึงยี่สิบสี่เรื่อง และคำตอบของข้าก็ให้ไปแล้วเช่นเดียวกัน
แลครั้งที่ยี่สิบห้าคือวันนี้ถือเป็นบทสรุป แสดงอวสานของเรื่อง
ขอให้นิทานชุดนี้จงมีเกียรติแพร่กำจายไปในโลกกว้าง”
เวตาลก็สนองตอบว่า “ขอจงสำเร็จ โอ ราชะ บัดนี้จงฟังเถิด
ข้าจะกล่าวถึงคุณสมบัติที่ดีเด่นของนิทานชุดนี้ สร้อยนิทานอันร้อยรัดเข้า
ด้วยกันดังสร้อยมณีสายนี้ ประกอบด้วยยี่สิบสี่เรื่องเบื้องต้น แลมาถึงบทที่ยี่สิบห้า
อันเป็นบทสรุปส่งท้าย นับเป็นปริโยสาน นิทานชุดนี้จงเป็นที่รู้จักกันในนามของ
เวตาลปัญจวิงศติ (นิทานยี่สิบห้าเรื่องของเวตาล) จงมีเกียรติยศบันลือไปในโลก
และนำความเจริญมาสู่ผู้อ่านทุกคน ใครก็ตามที่อ่านหนังสือแม้แต่โศลกเดียว
หรือเป็นผู้ฟังเขาอ่านก็เช่นเดียวกัน จักรอดจากคำสาปทั้งมวล บรรดาอมนุษย์ทั้งหลาย
มียักษ์ เวตาล กุษมาณฑ์ แม่มด หมอผีและรากษส ตลอดจนสัตว์โลกประเภทเดียวกันนี้
จงสิ้นฤทธิ์เดชเมื่อได้ยินใครอ่านนิทาน อันศักดิ์สิทธิ์นี้”
พระศิวะได้ฟังเรื่องของต่าง ๆ ของเวตาลจบก็กล่าวชื่นชมในองค์
พระราชาตริวิเสนมาก ซึ่งพระศิวะได้สร้างจากอนุภาคโดยให้มาปราบอสูรคนร้ายต่าง ๆ
เมื่อพระราชาตริวิกรมเสนได้เป็นจอมราชันแห่งวิทยาธรทั้งโลกและสวรรค์แล้ว
ก็เกิดความเบื่อหน่าย หันไปบำเพ็ญทางธรรมจนบรรลุความหลุดพ้น
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)